วันอังคารที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

อาชีพนักสืบ

อาชีพนักสืบ

          เมื่อเอ่ยถึงอาชีพนักสืบ คนทั่วไปอาจนึกถึงหนังเรื่องเจมส์บอนด์ 007 หรือไม่ก็หนังฮอลลีวู้ดแนวสืบสวนสอบสวน แต่นั่นคือโลกของการแสดง เพราะในโลกของความเป็นจริงงานของนักสืบนั้น เป็นการหาข่าวในระบบทีมเวิร์กและใช้ไหวพริบปฏิภาณอยู่ตลอดเวลา ซึ่งแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับบทบาทของพระเอกในหนังที่วางมาดเท่ และเก่งคนเดียวก็ได้
          งานคือเงิน วันนี้จะพาท่านไปสัมผัสชีวิต นักสืบ เพื่อสะท้อนแง่มุมในการทำงานให้ผู้อ่านได้รับทราบว่า ในแต่ละวันกลุ่มคนเหล่านี้ต้องทำงานกันแบบไหน และประสบปัญหาอะไรกันมาบ้าง
          อย่างที่เกริ่นไปแล้วว่างานของ นักสืบ เป็นการสืบหาข่าวเพื่อค้นหาความจริงในสิ่งที่ผู้ว่าจ้างอยากรู้แต่ไม่รู้ มีตั้งแต่สืบเรื่องชู้สาว สืบจับบุคคลตามหมายศาล เช่น คดีเช็ค คดีฉ้อโกง การสืบพฤติกรรมบุคคลหรือสะกดรอยตามโดยไม่ให้เป้าหมายรู้ตัว และการ สืบหาทรัพย์สินของลูกหนี้ที่ยักย้ายถ่าย
เททรัพย์สิน เป็นต้น
          โดยเรื่องฮิตที่คนส่วนใหญ่มีปัญหาและมาใช้บริการกันมากที่สุด คือ การสืบชู้สาว และนับวันก็จะทวีความรุนแรงมากขึ้น เหตุผลง่าย ๆ ก็เพราะความต้องการทางกามารมณ์ของมนุษย์ไม่มีที่สิ้นสุด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสามีต้องการมีเมียน้อย เมียเก็บ หรือคู่ขาคู่ซ้อมและแม้กระทั่งนางทางโทรศัพท์ และ หมอนวด
          รูปแบบการทำงานของ นักสืบ แรกเริ่มก็ต้องพูดคุยทำความเข้าใจกับสิ่งที่ผู้ว่าจ้างต้องการให้สืบเสียก่อนว่าต้องการให้ทำอะไร ถ้าจะให้ติดตามสามีก็ต้องให้ข้อมูลรายละเอียดทุกอย่างที่เกี่ยวกับสามี ได้แก่ รูปถ่ายที่เป็นปัจจุบัน ขับรถอะไร สีอะไร ขับไวแค่ไหน ขึ้นทางด่วนไหม เลขทะเบียนอะไร มีคนขับหรือไม่ แล้วสเปกของผู้หญิงที่สามีชอบเป็นแบบไหน ตั้งแต่หน้าตา ทรวดทรงองค์เอว สูงยาวเข่าดี หรือชอบผู้หญิงแบบหมอนวด แบบนักศึกษา สิ่งเหล่านี้จำเป็นต้องบอกมาให้หมด
          หลังจากนั้นก็เป็นการขอทราบข้อมูลช่วงเวลาเดินทางเข้าออกของสามีผู้ว่าจ้างเพื่อประโยชน์ในการสะกดรอยตาม ซึ่งวิธีการสะกดรอยต้องตระเตรียมอุปกรณ์ เช่น กล้องถ่ายรูป โทรศัพท์ถ่ายรูปได้ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ให้พร้อมและทำการตรวจสอบเส้นทางก่อนเพื่อป้องกันความผิดพลาดจากการทำงาน อาทิ การดูทางหนีทีไล่ซอยตรง ซอยตันหรือไม่ ต่อจากนั้นก็เป็นการแบ่งหน้าที่กระจายงานกันไปทำทีมหนึ่งมีประมาณ 3-4 คน คนหนึ่งดูต้นทางเมื่อเป้าหมายเคลื่อนไหวให้แจ้งให้ นักสืบอีกทีมทราบเพื่อสะกดรอย ที่สำคัญในการทำงานทุกครั้งจะลืมเรื่องบันทึกภาพความเคลื่อนไหวของเป้าหมายไม่ได้เป็นอันขาด
         โดยเฉพาะภาพช็อตเด็ด เช่น กอดจูบลูบคลำ ถอดเสื้อผ้าและเสื้อใน เพราะถือว่าเป็นหลักฐานสำคัญที่ผู้ว่าจ้างต้องการใช้พิพากษา
สามีตัวเอง โดยทั่วไปผู้ว่าจ้างที่เป็นภรรยาหลวงต้องการให้เข้าถ่ายถึงในห้องนอนขณะที่สามีกำลังเข้าได้เข้าเข็มกับภรรยาน้อยอยู่ ถ้าหาก นักสืบ คนไหนทำได้หมายถึงการได้รับเงินรางวัลตอบแทนก้อนโตทีเดียว ส่วนวิธีการทำงานสืบเรื่องอื่น ๆ เช่น           การสืบทุจริตในองค์กร โดยมากผู้ว่าจ้างมักจะเป็น บริษัทใหญ่ มีคนต่างชาติเป็นเจ้าของ ต้องการให้สืบปัญหาคอร์รัปชัน การสืบประวัติของลูกน้องที่ส่งมาดูแลกิจการในประเทศไทย หรือให้สืบ เรื่องทุริตน้ำมัน ซึ่งต้องใช้ทีมงานเยอะชุดหนึ่งประมาณ
20-30
คน เพราะคนเหล่านี้ทำเป็นขบวนการ การทำงานจึงต้องระมัดระวังตัวสูงและควรประสานตำรวจท้องที่ไว้ล่วงหน้าด้วย
        เวลาในการทำงานของอาชีพนี้ไม่แน่นอน และไม่มีวันหยุด วันลาหรือแม้แต่วันหยุดนักขัตฤกษ์ก็ไม่มี ขึ้นอยู่กับงานเป็นหลัก ซึ่งต้องพร้อมทำงานตลอดเวลา เนื่องจากคนที่ทำผิดหรือนอกใจภรรยา เขาไม่ได้มาบอกให้รู้ล่วงหน้าหรอก งานจึงไม่เป็นเวลาบางครั้งต้องเฝ้าทั้งวันทั้งคืนผลัดเปลี่ยนกันเข้ากะทำงาน แต่โดยทั่วไปการทำงานของ นักสืบ จะใช้เวลา 8 ชั่วโมงต่อวันและไม่เกิน 7 วัน
           รายได้และสวัสดิการของ นักสืบ ขึ้นอยู่กับปริมาณงาน ลักษณะงานและชื่อเสียงของนักสืบ ถ้าชื่อเสียงดีมีผลงานเป็นที่ประจักษ์อย่างนี้รายได้มากแน่ เพราะลูกค้าเยอะ โดยประมาณ การนักสืบคนหนึ่งสามารถมีรายได้ตั้งแต่ 10,000-1,000,000 บาทเลยทีเดียว ส่วนสวัสดิการส่วนมากจะมีประกันสังคมให้อย่างเดียว
           เดชา กิตติวิทยานันท์ วัย 42 ปี ผู้คร่ำหวอดวงการนักสืบ กว่า 20 ปี เจ้าของบริษัทนักสืบเดชา แอนด์ ไอบีเอส จำกัด เล่าว่เมื่อเอ่ยถึงอาชีพนักสืบ คนทั่วไปอาจนึกถึงหนังเรื่องเจมส์บอนด์ 007 หรือไม่ก็หนังฮอลลีวู้ดแนวสืบสวนสอบสวน แต่นั่นคือโลกของการแสดง เพราะในโลกของความเป็นจริงงานของนักสืบนั้น เป็นการหาข่าวในระบบทีมเวิร์กและใช้ไหวพริบปฏิภาณอยู่ตลอดเวลา ซึ่งแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับบทบาท
          
โดยทั่วไป การเข้ามาเป็นนักสืบ ต้องมีการฝึกสอนกันก่อน ปกติใช้เวลาอย่างน้อย 6 เดือนจึงให้ออกพื้นที่แรก ๆ จะให้เฝ้าอย่างเดียว จะเสียเวลาเยี่ยว ขี้ไม่ได้ ต้องนั่งทั้งวันในรถตู้เพื่อสังเกตเป้าหมาย ห้ามติดเครื่องยนต์เปิดแอร์เด็ดขาด ปิดกระจกอย่างเดียวและระหว่างนั่งอย่ามีพิรุธ ต้องระวังขาเสือก ซึ่งนักสืบกลัวที่สุด คำถามยอดฮิตที่ชอบถามคือ พี่รอใคร มาทำอะไรแถวนี้นักสืบต้องใจเย็น ห้ามทะเลาะและตอบโดยไม่ให้สงสัย ส่วนปัญหาอื่นที่นักสืบเจอคือการขับรถตามเป้าหมายซึ่งจะต้องคิดแทนว่าเป้าหมายจะไปทางไหนตลอดเวลา หรือการต้องทะเลาะกับตำรวจ บางทีก็ถูกสอบสวนหาว่าเป็นมือปืน หรือถูกหมากัดก็มี ซึ่งเป็นสิ่งที่คนอาชีพนี้หลีกเลี่ยงได้ยาก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น