วันอาทิตย์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

บำรุงความจำให้แข็งแรง

บำรุงความจำให้แข็งแรง

เคยหรือไม่? จำเนื้อหาส่วนใหญ่ของหนังสือที่อ่านเมื่อวานไม่ได้ หากตอบว่าเคย นั่นอาจเป็นเพราะระบบความจำที่อ่อนแอ หลายคนคงเคยเจอกับปัญหานี้ โดยเฉพาะน้อง ๆ วัยเรียน ส่วนวิธีกระตุ้นและพัฒนาความจำให้แข็งแรงจะเป็นอย่างไรนั้น 'เกร็ดน่ารู้ Edutainment Zone' มีมาฝากกัน
ใส่ใจกับสิ่งที่กำลังทำ ด้วยความมีสมาธิ เพราะเป็นจุดเริ่มต้นในการส่งผ่านความจำช่วงแรกเข้าสู่ความจำระยะยาว ลองสังเกตจากหนังสือที่ชอบ เมื่อใส่ใจอ่านจริงจังจะจำได้อย่างแม่นยำเมื่อนึกถึง
แลกเปลี่ยนความรู้กับเพื่อน การอธิบาย แลกเปลี่ยนความเข้าใจซึ่งกันและกัน จะช่วยให้เข้าใจเนื้อหาได้ดีวิธีหนึ่ง ทั้งยังเป็นการทบทวนระบบความจำไปในตัว
กินอาหารกระตุ้นความจำ อาทิ อาหารที่มีขิง หอมหัวใหญ่ กระชายดำ พริก เป็นส่วนประกอบ จะช่วยชะลอความเสื่อมของสมองได้ ไม่จำเป็นต้องกินเยอะในมื้อเดียว ขอเพียงร่างกายได้รับสม่ำเสมอก็ใช้ได้
นอนให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมอง เซลล์ประสาทจะสื่อสารกันได้มากขึ้น ส่งผลต่อการเรียนรู้และความจำ

ออกกำลังกายพอเหมาะ ให้ผลดีต่อสมอง ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต เลือดจะไหลไปเลี้ยงสมองได้ดี ส่งผลให้ความจำแม่นยำ
สิ่งสำคัญต้องรู้จักบำรุงความจำให้แข็งแรงสม่ำเสมอ แล้วจะพบว่า ‘ความจำระยะยาวที่มีประสิทธิภาพ’ ทุกคนก็สามารถสร้างได้.

9วิธีบำรุงสมอง

9วิธีบำรุงสมอง

1. กินน้ำบ่อยๆ
กินน้ำบ่อยๆแล้วมันจะกระตุ้นการทำงานของสมองได้
2. กินไขมันที่ดี
กินไขมันที่ดี ก็คือ กินให้พอเหมาะ ไม่มากหรือน้อยเกินไป
3. ทำสมาธิ
การทำสมาธิจะทำให้เราใจเย็นขึ้น มีสมาธิมากขึ้น
4. ตั้งเป้าหมายในแต่ละวัน
พอตื่นเช้ามา ก็มองกระจกพูดกับตัวเองว่า วันนี้จะทำอะไรบ้าง แล้วก็พยายามทำให้ได้
5. ยิ้ม
ยิ้มให้กับตัวเอง ยิ้มให้กับคนอื่น เราก็เห็นประโยชน์ของการยิ้มมามากแล้ว มันช่วยทำให้หน้าตาเราสดใสขึ้น มีความสุข สุขภาพดี และนอกจากนี้ มันก็ยังช่วยบำรุงสมองอีกด้วย
6. เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
การเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ทำให้เราได้รับความรู้ใหม่ๆ ทำให้สมองเราได้ทำงาน ถ้าขาดการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เราจะไม่ได้ใช้งานสมองเท่าที่ควร และเมื่อสมองไม่ได้รับการใช้งาน มันก็อาจจะทำให้สมองมีประสิทธิภาพน้อยลง
7. ให้อภัยตัวเอง
การเก็บเรื่องต่างๆมาโทษตัวเองนั้นไม่ดีเลย เราจะไม่มีความสุข ไม่สบายใจ ดังนั้นเราควรหัดปล่อยวางเรื่องเก่าๆซะบ้าง ให้อภัยตัวเองในสิ่งที่ทำผิดไป ให้ตัวเองปรับปรุงให้ดีขึ้น
8. บันทึกสิ่งที่ดีในแต่ละวัน
การมองโลกในแง่ดีนั้น จะทำให้เรามีความสุข ไม่เครียด ดังนั้นให้บันทึกสิ่งดีๆที่ได้พบในแต่ละวัน จะช่วยเราให้ดีขึ้นได้
9. ฝึกหายใจลึกๆ
การหายใจลึกๆ เป็นสิ่งที่เราควรฝึกไว้ เราจะมีสมาธิมากขึ้น แล้วปอดของเราจะทำงานได้ดีขึ้น แต่ก็ไม่ใช่ว่าไปหายใจลึกๆริมถนน สูดควันเข้าไปแย่อีกอะนั่น ก็ควรไปหายใจในที่ที่อากาศบริสุทธิ์หน่อย

7สุดยอดอาหารบำรุงสมอง

7สุดยอดอาหารบำรุงสมอง





......หลายครั้งในชีวิตของเรา การงาน การเงิน สังคมและชีวิตครอบครัว ทำให้เราต้องคิดหนักใช้สมองและความคิดในเรื่องต่างๆมากมายหลายเรื่อง
บางครั้งก็ทำให้คนเราเครียดหรือเหนื่อยล้าไปได้เหมือนกัน

.....ไม่เป็นไรครับ เหนื่อยนัก เครียดนักก็พักกันเสียก่อนมาหาอะไรกิน มาหาอะไรบำรุงร่างกาย บำรุงสมองกันดีกว่าเนอะครับ
อาหารบำรุงสมองนั้นมีมากมาย บางคนก็ชอบซุปไก่รังนก หรือโสม สมุนไพรต่างๆ ก็ว่ากันไปครับ อาหารแต่ละอย่างก็มีประโยชน์ต่อร่างกายและจิตใจแตกต่างกันไป การกินอาหารที่หลากหลาย ย่อมได้ประโยชน์เพียงแต่ต้องกินให้พอดี ไม่มากและไม่น้อยจนเกินไปกินให้ถูกส่วน ก็เท่านั้นเองเนอะครับ….

7 อาหารบำรุงสมอง

 
.....
ปลา เป็นอาหารบำรุงสมองยอดฮิต
ที่เรานึกถึงเป็นอันดับแรกๆเลยครับ
เพราะในปลาจะมีกรดไขมัน โอเมก้า 3
ช่วยสร้างและดูแลผนังเซลส์ประสาทในสมอง
ให้แข็งแรง ไม่เสื่อมตามวัยเร็วเกินไป นั่นเอง
(กรดไขมัน DHA ที่อยู่ในกรดไขมันโอเมก้า3
มีความสำคัญต่อการพัฒนาและบำรุงเซลส์สมองมาก
เพราะเป็นกรดไขมันโซ่ยาวแบบเดียวกัน
กับที่พบในเยื่อเซลส์สมองของเรา)
ปลากระพง ปลาแซลมอน ปลาซาร์ดีน และปลาทู
เป็นปลาที่มีโอเมก้า 3 ในปริมาณสูงครับ
.....


สาหร่ายทะเล มีโอเมก้า 3 สูงเช่นกัน
จัดว่าเป็นอาหารบำรุงสมองอย่างหนึ่งที่สำคัญ
และยังช่วยให้เส้นผมดกดำได้อีกด้วยครับ
.....

.....
กระเทียม สุดยอดพืชมหัศจรรย์จริงๆครับ
กระเทียมจะช่วยกระตุ้นให้สมองสร้างเทโรนิน
มากขึ้น ช่วยทำให้เราอารมณ์ดี ลดความเครียด
ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลส์ประสาท ช่วยให้ความจำดี
.....

....
ถั่วเหลือง เป็นอาหารบำรุงร่างกายที่ยอดเยี่ยม
มีคุณประโยชน์หลากหลายจริงๆครับ
สำหรับสมองนั้น ถั่วเหลืองมีสารไฟโตเอสโตรเจน
ที่ช่วยให้เซลส์ประสาทของเราแข็งแรง ช่วยเรื่องความจำ
.....

...
กล้วยหอม ถือเป็นผลไม้คลายความเครียดชั้นดีครับ
กล้วยหอมช่วยกระตุ้นสารเซโรโทนินให้กับสมอง
และยังช่วยบำรุงร่างกายและเพิ่มพลังให้กับร่างกายเราด้วย
....

.....
สตรอเบอรี่สีแดง มีสารแอนโทไซอะนิน
จัดเป็นแอนติออกซิเดนท์ที่ทรงพลัง ช่วยดูแลเซลส์สมอง
....

....
ผักปวยเล้ง มีกรดโฟลิกสสูงมาก ช่วยให้อารมณ์ดี หลับง่าย
ป้องกันโรคซึมเศร้า ประสาทหลอนและความจำเสื่อม
.....
เหล่านี้แหละครับ อาหารบำรุงสมองทั้งหลาย
ที่หามาทำกินได้ไม่ยากเลย เมื่อสมองดี อารมณ์ดี
เราก็จะทำสิ่งต่างๆในชีวิตประจำวันได้ดี เนอะครับ









 









วันอังคารที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

อาชีพนักสืบ

อาชีพนักสืบ

          เมื่อเอ่ยถึงอาชีพนักสืบ คนทั่วไปอาจนึกถึงหนังเรื่องเจมส์บอนด์ 007 หรือไม่ก็หนังฮอลลีวู้ดแนวสืบสวนสอบสวน แต่นั่นคือโลกของการแสดง เพราะในโลกของความเป็นจริงงานของนักสืบนั้น เป็นการหาข่าวในระบบทีมเวิร์กและใช้ไหวพริบปฏิภาณอยู่ตลอดเวลา ซึ่งแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับบทบาทของพระเอกในหนังที่วางมาดเท่ และเก่งคนเดียวก็ได้
          งานคือเงิน วันนี้จะพาท่านไปสัมผัสชีวิต นักสืบ เพื่อสะท้อนแง่มุมในการทำงานให้ผู้อ่านได้รับทราบว่า ในแต่ละวันกลุ่มคนเหล่านี้ต้องทำงานกันแบบไหน และประสบปัญหาอะไรกันมาบ้าง
          อย่างที่เกริ่นไปแล้วว่างานของ นักสืบ เป็นการสืบหาข่าวเพื่อค้นหาความจริงในสิ่งที่ผู้ว่าจ้างอยากรู้แต่ไม่รู้ มีตั้งแต่สืบเรื่องชู้สาว สืบจับบุคคลตามหมายศาล เช่น คดีเช็ค คดีฉ้อโกง การสืบพฤติกรรมบุคคลหรือสะกดรอยตามโดยไม่ให้เป้าหมายรู้ตัว และการ สืบหาทรัพย์สินของลูกหนี้ที่ยักย้ายถ่าย
เททรัพย์สิน เป็นต้น
          โดยเรื่องฮิตที่คนส่วนใหญ่มีปัญหาและมาใช้บริการกันมากที่สุด คือ การสืบชู้สาว และนับวันก็จะทวีความรุนแรงมากขึ้น เหตุผลง่าย ๆ ก็เพราะความต้องการทางกามารมณ์ของมนุษย์ไม่มีที่สิ้นสุด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสามีต้องการมีเมียน้อย เมียเก็บ หรือคู่ขาคู่ซ้อมและแม้กระทั่งนางทางโทรศัพท์ และ หมอนวด
          รูปแบบการทำงานของ นักสืบ แรกเริ่มก็ต้องพูดคุยทำความเข้าใจกับสิ่งที่ผู้ว่าจ้างต้องการให้สืบเสียก่อนว่าต้องการให้ทำอะไร ถ้าจะให้ติดตามสามีก็ต้องให้ข้อมูลรายละเอียดทุกอย่างที่เกี่ยวกับสามี ได้แก่ รูปถ่ายที่เป็นปัจจุบัน ขับรถอะไร สีอะไร ขับไวแค่ไหน ขึ้นทางด่วนไหม เลขทะเบียนอะไร มีคนขับหรือไม่ แล้วสเปกของผู้หญิงที่สามีชอบเป็นแบบไหน ตั้งแต่หน้าตา ทรวดทรงองค์เอว สูงยาวเข่าดี หรือชอบผู้หญิงแบบหมอนวด แบบนักศึกษา สิ่งเหล่านี้จำเป็นต้องบอกมาให้หมด
          หลังจากนั้นก็เป็นการขอทราบข้อมูลช่วงเวลาเดินทางเข้าออกของสามีผู้ว่าจ้างเพื่อประโยชน์ในการสะกดรอยตาม ซึ่งวิธีการสะกดรอยต้องตระเตรียมอุปกรณ์ เช่น กล้องถ่ายรูป โทรศัพท์ถ่ายรูปได้ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ให้พร้อมและทำการตรวจสอบเส้นทางก่อนเพื่อป้องกันความผิดพลาดจากการทำงาน อาทิ การดูทางหนีทีไล่ซอยตรง ซอยตันหรือไม่ ต่อจากนั้นก็เป็นการแบ่งหน้าที่กระจายงานกันไปทำทีมหนึ่งมีประมาณ 3-4 คน คนหนึ่งดูต้นทางเมื่อเป้าหมายเคลื่อนไหวให้แจ้งให้ นักสืบอีกทีมทราบเพื่อสะกดรอย ที่สำคัญในการทำงานทุกครั้งจะลืมเรื่องบันทึกภาพความเคลื่อนไหวของเป้าหมายไม่ได้เป็นอันขาด
         โดยเฉพาะภาพช็อตเด็ด เช่น กอดจูบลูบคลำ ถอดเสื้อผ้าและเสื้อใน เพราะถือว่าเป็นหลักฐานสำคัญที่ผู้ว่าจ้างต้องการใช้พิพากษา
สามีตัวเอง โดยทั่วไปผู้ว่าจ้างที่เป็นภรรยาหลวงต้องการให้เข้าถ่ายถึงในห้องนอนขณะที่สามีกำลังเข้าได้เข้าเข็มกับภรรยาน้อยอยู่ ถ้าหาก นักสืบ คนไหนทำได้หมายถึงการได้รับเงินรางวัลตอบแทนก้อนโตทีเดียว ส่วนวิธีการทำงานสืบเรื่องอื่น ๆ เช่น           การสืบทุจริตในองค์กร โดยมากผู้ว่าจ้างมักจะเป็น บริษัทใหญ่ มีคนต่างชาติเป็นเจ้าของ ต้องการให้สืบปัญหาคอร์รัปชัน การสืบประวัติของลูกน้องที่ส่งมาดูแลกิจการในประเทศไทย หรือให้สืบ เรื่องทุริตน้ำมัน ซึ่งต้องใช้ทีมงานเยอะชุดหนึ่งประมาณ
20-30
คน เพราะคนเหล่านี้ทำเป็นขบวนการ การทำงานจึงต้องระมัดระวังตัวสูงและควรประสานตำรวจท้องที่ไว้ล่วงหน้าด้วย
        เวลาในการทำงานของอาชีพนี้ไม่แน่นอน และไม่มีวันหยุด วันลาหรือแม้แต่วันหยุดนักขัตฤกษ์ก็ไม่มี ขึ้นอยู่กับงานเป็นหลัก ซึ่งต้องพร้อมทำงานตลอดเวลา เนื่องจากคนที่ทำผิดหรือนอกใจภรรยา เขาไม่ได้มาบอกให้รู้ล่วงหน้าหรอก งานจึงไม่เป็นเวลาบางครั้งต้องเฝ้าทั้งวันทั้งคืนผลัดเปลี่ยนกันเข้ากะทำงาน แต่โดยทั่วไปการทำงานของ นักสืบ จะใช้เวลา 8 ชั่วโมงต่อวันและไม่เกิน 7 วัน
           รายได้และสวัสดิการของ นักสืบ ขึ้นอยู่กับปริมาณงาน ลักษณะงานและชื่อเสียงของนักสืบ ถ้าชื่อเสียงดีมีผลงานเป็นที่ประจักษ์อย่างนี้รายได้มากแน่ เพราะลูกค้าเยอะ โดยประมาณ การนักสืบคนหนึ่งสามารถมีรายได้ตั้งแต่ 10,000-1,000,000 บาทเลยทีเดียว ส่วนสวัสดิการส่วนมากจะมีประกันสังคมให้อย่างเดียว
           เดชา กิตติวิทยานันท์ วัย 42 ปี ผู้คร่ำหวอดวงการนักสืบ กว่า 20 ปี เจ้าของบริษัทนักสืบเดชา แอนด์ ไอบีเอส จำกัด เล่าว่เมื่อเอ่ยถึงอาชีพนักสืบ คนทั่วไปอาจนึกถึงหนังเรื่องเจมส์บอนด์ 007 หรือไม่ก็หนังฮอลลีวู้ดแนวสืบสวนสอบสวน แต่นั่นคือโลกของการแสดง เพราะในโลกของความเป็นจริงงานของนักสืบนั้น เป็นการหาข่าวในระบบทีมเวิร์กและใช้ไหวพริบปฏิภาณอยู่ตลอดเวลา ซึ่งแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับบทบาท
          
โดยทั่วไป การเข้ามาเป็นนักสืบ ต้องมีการฝึกสอนกันก่อน ปกติใช้เวลาอย่างน้อย 6 เดือนจึงให้ออกพื้นที่แรก ๆ จะให้เฝ้าอย่างเดียว จะเสียเวลาเยี่ยว ขี้ไม่ได้ ต้องนั่งทั้งวันในรถตู้เพื่อสังเกตเป้าหมาย ห้ามติดเครื่องยนต์เปิดแอร์เด็ดขาด ปิดกระจกอย่างเดียวและระหว่างนั่งอย่ามีพิรุธ ต้องระวังขาเสือก ซึ่งนักสืบกลัวที่สุด คำถามยอดฮิตที่ชอบถามคือ พี่รอใคร มาทำอะไรแถวนี้นักสืบต้องใจเย็น ห้ามทะเลาะและตอบโดยไม่ให้สงสัย ส่วนปัญหาอื่นที่นักสืบเจอคือการขับรถตามเป้าหมายซึ่งจะต้องคิดแทนว่าเป้าหมายจะไปทางไหนตลอดเวลา หรือการต้องทะเลาะกับตำรวจ บางทีก็ถูกสอบสวนหาว่าเป็นมือปืน หรือถูกหมากัดก็มี ซึ่งเป็นสิ่งที่คนอาชีพนี้หลีกเลี่ยงได้ยาก

วันพฤหัสบดีที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ประโยชน์และโทษของคอมพิวเตอร์

ประโยชน์และโทษของคอมพิวเตอร์
  • ประโยชน์ของคอมพิวเตอร์
  1. ใช้ในการพิมพิ์เอกสารต่างๆ
  2. ใช้ในการเรียนการสอน
  3. ใช้ในการค้นหาข้อมูล
  4. ได้รู้สิ่งที่อยากรู้
  5. ทันสมัย
  • โทษของคอมพิวเตอร์
  1. ทำให้สายตาเสีย
  2. เปลืองไฟและเสียค่าไฟ
  3. เวลาเล่นไปนานๆทำให้ปวดเมื่อยไปตามร่างกาย
  4. ทำให้เสียอนาคตถ้าใช้ไปทางที่ผิดๆ
  5. ทำให้เราเปลืองเงิน

วันพุธที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

conun fanclub


คุโด้ ชินอิจิ นักสืบหนุ่มมัธยมปลาย อายุ 17 ปี โรงเรียนเทย์ตันฉายา โฮมส์แห่งยุคเฮย์เซย์ วันหนึ่งตอนที่เค้าไปเดทกับ โมริ รัน เพื่อนสมัยเด็กของเค้าได้ไปเห็นการเจรจาอันน่าสงสัยของชายชุดดำแต่พวกมัน 1 คนก็ย่องมาด้านหลังของ ชินอิจิแล้วใช้ไม้ยาวๆตีหัวชินอิจิ แล้วจับกรอกยา APTS 4869 แต่ด้วยผลค้างเคียงทำให้ ชินอิจิ กลายเป็นเด็ก เค้าจึงเล่าความจริงให้ด็อกเตอร์ ที่รู้จักกันที่ชื่อว่า ด็อกเตอร์ อางาสะ ฮีโรชิ แล้วรันที่บังเอิญผ่านมาเห็นชินอิจิในร่างเด็กจึงพูดว่า " หนูชื่ออะไรเหรอจ๊ะ " ด้วยเหตุนี้ชินอิจิ จึงพูดแบบมั่วๆว่า " เออ...ผมชื่อ เอโดคาวะ โคนันครับ " แล้วรันจึงขอด็อกเตอร์ไปเลี้ยงโดย ด็อกเตอร์บอกว่าโคนันเป็นลูกของญาติห่างๆ แล้วรันจึงพา โคนันคุง กลับบ้านซึ่งพ่อเค้าเปิดเป็นสำนักงานนักสืบ พ่อของรันชื่อว่า โมริ โคโกโร่ ซึ่งปัจจุบันแยกกันอยู่กับภรรยาที่ชื่อว่า คิซากิ เอรี เพราะมีอยู่ครั้งหนึ่งที่โมริ ไปว่าเอรีว่าทำอาหารห่วยแตกเอรี จึงโมโหและแยกกันอยู่ ( แต่ความจริงเอรี ก็ทำอาหารห่วยแจกจริงๆนั่นแหละ )

ตัวละคร


เอโดกาวะ โคนัน


          เป็นร่างที่หดตัวเล็กลงของคุโด้ ชินอิจิ วันหนึ่งได้ไปเดทกับโมริ รันที่สวนสนุก tropical land และได้ไขคดี การฆาตกรรมบนรถไฟเหาะ ระหว่างทางกลับชินอิจิได้ไปเห็นชายชุดดำเจรจาแลกของต้องสงสัยแต่หาร ู้ไม่ว่ามี คนขององค์กรแอบอยู่ด้านหลังอยู่จึงถูกทำร้ายและถูกจับกินยา aptx4869 เพื่อฆ่าเค้าแต่ยากลับผิดพลาดเนื่องจาก ยังอยู่ในขั้นทดลองทำให้ร่างกายหดเล็กลงกลายเป็นเด็กอีกครั้ง เพื่อจะสืบหาความจริงว่าคนพวกนั้นเป็นใคร ดร.อากาสะจึงฝากให้ โมริ โคโกโร่ พ่อของรันเลี้ยง เพื่อจะติดตามหาชายชุดดำ แต่เนื่องจากเขาเป็นเด็กจึงต้อง อาศัย เครื่องมือจาก ดร. อากาสะ ใช้โคโกโร่เป็นทางผ่านของการคลี่คลายคดี เป็นนักเรียนชั้นประถม 1 ของ โรงเรียนประถมเทตัน

เอโดกาวะ โคนัน

          เป็นร่างที่หดตัวเล็กลงของคุโด้ ชินอิจิ วันหนึ่งได้ไปเดทกับโมริ รันที่สวนสนุก tropical land และได้ไขคดี การฆาตกรรมบนรถไฟเหาะ ระหว่างทางกลับชินอิจิได้ไปเห็นชายชุดดำเจรจาแลกของต้องสงสัยแต่หาร ู้ไม่ว่ามี คนขององค์กรแอบอยู่ด้านหลังอยู่จึงถูกทำร้ายและถูกจับกินยา aptx4869 เพื่อฆ่าเค้าแต่ยากลับผิดพลาดเนื่องจาก ยังอยู่ในขั้นทดลองทำให้ร่างกายหดเล็กลงกลายเป็นเด็กอีกครั้ง เพื่อจะสืบหาความจริงว่าคนพวกนั้นเป็นใคร ดร.อากาสะจึงฝากให้ โมริ โคโกโร่ พ่อของรันเลี้ยง เพื่อจะติดตามหาชายชุดดำ แต่เนื่องจากเขาเป็นเด็กจึงต้อง อาศัย เครื่องมือจาก ดร. อากาสะ ใช้โคโกโร่เป็นทางผ่านของการคลี่คลายคดี เป็นนักเรียนชั้นประถม 1 ของ โรงเรียนประถมเทตัน



โมริ รัน
โมริ รัน

          โมริ รัน (「毛利 蘭」 Mōri Run) ตัวละครจากการ์ตูนญี่ปุ่นเรื่อง ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน ในการ์ตูนฉบับ ภาษาอังกฤษใช้ชื่อว่า ราเชล มัวร์ (Rachel Moore) ชื่อของ โมริ รัน มาจากชื่อนักแต่งนิยายฝรั่งเศส โมรีซ เลอ-บล็อง (Maurice Leblanc) ผู้แต่ง เรื่อง อาร์แซน ลูแปง (Arsène Lupin) รันเป็นเพื่อนสมัยเด็กกับชินอิจิ รันเล่นกับชินอิจิตลอดมาจนเกิดมีหัวใจ ดวงน้อยให้ กับชินอิจิ และเป็นลูกสาวของนักสืบโมริ โคโกโร่ และ ทนาย คิซากิ เอริ รันมีทั้งความเข้มแข็งและอ่อนโยนเห็นภายนอก อาจดูแข็งแกร่งแต่ภายในแล้วเป็นคนชอบ ร้องไห้ความแข่งแกร่งเกิดจาก โดยรันเก่งคาราเต้มาก ตั้งแต่พ่อแม่แยกทาง กันเธอก็คอยดูแลโคโกโร่และก็ มีการ ติดต่อกับคิซากิบ้าง พยายามจะให้ ทั้งสองคนคืนดีกันแต่ก็ ไม่สำเร็จ และรันก็เป็นคนที่คอยดูแลโคนัน หลังจากที่ชินอิจิหายสาบสูญ และเด็กน้อยที่ชื่อ โคนัน ปรากฏตัว หลายๆครั้งที่ รันเคยสงสัยว่าแท้จริงโคนัน คือชินอิจิ แต่ชินอิจิพยายามที่จะพิสูจน์ตัวเองหลายครั้งว่า ไม่ใช่โคนันเพื่อความปลอดภัยของรันจากการถูก ตาม ล่าของพากชายชุดดำเพราะถ้ารันรู้รักก็จะถูกพวกชายชุดดำฆ่ารันแอบชอบชินอิจิและชินอิจิก็ชอบรัน แต่ทั้งสองคนไม่กล้าบอกกัน

                                                               ดร. อากาสะ ฮิโรช

          นักวิทยาศาสตร์เพื่อนบ้านของชินอิจิ อายุ 52 ปีและยังเป็นเพื่อนกับพ่อของชินนิจิ อยู่บ้านเลขที่ 22 หมู่ 2 เบกะโจ เขาคอยช่วยเหลือโคนันทุกๆเรื่อง ตั้งแต่เรื่องที่ชินอิจิกลายเป็นโคนัน เขาก็พยายามหายาเเก้พิษด้วยนอก จากนี้เครื่องมือที่ช่วยเหลือโคนันในการคลี่คลายคดี ดร.อากาสะก็เป็นคนประดิษฐ์

จอมโจรคิด


          ในชื่อจริง คุโรบะ ไคโตะ เป็นลูกชายคนเดียวของคุโรบะ โทอิจิ นักมายากลชื่อก้องโลก คุโรบะไคโตะนั้นเป็นKIDรุ่น 2 ต่อจากพ่อของเขา มีความ สามารถ ในการปลอมตัวทั้งเสียงและอุปนิสัยของคน ๆ นั้น ส่วนคุโระบะ โทอิจิที่เป็นKIDรุ่นแรก ว่ากันว่าเป็นอาจารย์สอนวิชาปลอมตัวให้กับแม่ของคุโด้ และชารอน วินยาร์ด จอมโจรคิดในตอนแรกปรากฏในชื่อ จอมโจร 1412 ตัวเลข 1412 เป็นรหัสของเขา และคนที่ตั้งชื่อคิดขึ้นมาก็คือ คุโด้ ยูซากุ เพราะ นักหนังสือพิมพ์เขียนรหัส 1412 หวัดๆ ยูซากุ ก็เลยอ่านมันว่า"คิด"คิดปรากฏตัวครั้งแรกที่ปารีส เมื่อ 18 ปีก่อน และได้หายสาบสูญไปถึง 10 ปี มีข่าวลือว่า เขาเสียชีวิตไปแล้ว ซึ่งเป็นความจริง เพราะคิดถูกฆาตกรรมโดยกลุ่มอาชญากรที่ต้องการอัญมณีที่ถูกขโมยไป หลังจากเขาเสียชีวิตภรรยาของคิดก็ได้คลอด บุตรชาย และตั้งชื่อเขาว่า คุโรบะ ไคโตะ ไคโตะเป็นนักเรียนมัธยมปลายผู้มีไอคิวสูงถึง 400 แต่มีนิสัยกลัวปลา ของที่เขาชอบมากก็คือ ไอศกรีมช็อคโกแลต และ เล่นสกีเก่งมาก ถึงแม้เขาจะไม่ถนัดการเล่นสเก็ตน้ำแข็ง แต่ก็มีความสามารถทางมายากลที่โดดเด่น ไคโตะชื่นชมพ่อมาโดยตลอดและเล่นมายากลเสมอ เพื่อจะได้คิดว่ามีพ่ออยู่ใกล้ๆ ในเวลาต่อมา ไคโตะได้บังเอิญไปพบห้องลับของพ่อจึงได้รู้ความจริงว่า พ่อของเขาก็คือ จอมโจรคิดเขาได้รู้ว่าพ่อของเขา ถูกฆาตกรรม และต้องการจะล้างแค้นกับพวกฆาตกร เขาจึงกลายมาเป็นอาชญากรที่ใช้ชื่อ "จอมโจรคิด" ตามพ่อของเขา ไคโตะปรากฏตัวในฐานะของ จอมโจร 8 ปีหลังจากที่จอมโจรคิดผู้พ่อหายสาบสูญไป คิดจะไม่ฆ่าคนแต่จะขโมยของไปเพียงอย่างเดียว เรื่องนี้ชินอิจิก็รู้ คิดสามารถปลอมตัวและปลอมเสียง ได้แนบเนียนมาก และมีเรื่องเล่าว่าพ่อของเขาเป็นอาจารย์สอนการแปลงโฉมให้ยูกิโกะกับชารอน โดยก่อนทำการโจรกรรม จอมโจรคิด จะส่งสาส์นเตือน ถึง เหยื่อหรือตำรวจก่อน โดยสาส์นมีรูปแบบเป็นข้อความที่ต้องไขปริศนาอีกที แล้วจึงทำการโจรกรรมตามวิธีที่เขียนไว้ในสาส์นเตือน

โคจิมะ เก็นตะ

          โคจิมะ เก็นตะ (小嶋元太, โคะจิมะ เก็นตะ) ที่ยึดตำแหน่งหัวหน้าขบวนการนักสืบเยาวชนโดยบังคับและ เป็นเด็ก ที่ใจร้อน
โยชิดะ อายูม

โยซิดะ อายูมิ

          โคจิมะ เก็นตะ (小嶋元太, โคะจิมะ เก็นตะ) ที่ยึดตำแหน่งหัวหน้าขบวนการนักสืบเยาวชนโดยบังคับและ เป็นเด็ก ที่ใจร้อน

วันอังคารที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

conun fanclub

ประวัติตัวละคร

โมริ โคโกโร่

         
 โมริ โคโกโร่ (「毛利 小五郎」, Mōri Kogorō, 毛利 小五郎) พ่อของรันฉายาของเขาคือ โคโกโร่  นิทรา เพราะเวลาคลี่คลายคดีจะเหมือนนอนหลับ เป็นเหมือนทางผ่านของโคนันในการนำความจริงมาตีแผ่ ่ แต่ โคโกโร่ก็ยินดีรับความ ชื่นชอบเวลาคนอื่นชมทั้งๆที่ไม่รู้ว่า ตัวเอง ทำอะไรไปบ้าง โคโกโร่มีนิสัยเจ้าชู้  และสูบบุหรี่จัดมาก ชอบเล่นไพ่นกกระจอกแต่ก็มีข้อดีคือเล่นยูโดเก่งและยิงปืนได้แม่น  นักร้องที่ชื่นชอบมาก คือ โอกิโนะ โยโกะ ในอดีตเป็นตำรวจเเผนกฆาตกรรมอีกด้วย  ในฉบับภาษาอังกฤษใช้ชื่อว่า ริชาร์ด มัวร์ (Richard Moore) โดยคำว่ามัวร์ มาจากนามสกุล โมริ